สำหรับใครที่เริ่มต้นทำ SEO ห้ามพลาด กับปลั๊กอิน Yoast SEO ที่มือโปรหลายๆคนไว้ใจ แล้ว ปลั๊กอิน Yoast SEO คือ ใช้งานอย่างไร จะช่วยคุณให้สามารถทำเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรก Google อย่างไร วันนี้ MIG จะมาเล่าให้ฟังกันครับ
Yoast SEO คือ

Yoast SEO เป็นโปรแกรมเสริมที่เราสามารถนำมาติดตั้งบนเว็บไซต์ได้ฟรี ซึ่งตัวโปรแกรมจะถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเจ้าของเว็บไซต์เพิ่มประสิทธิภาพของ SEO ให้ถูกตามกฏของ Google ที่มีการวางเอาไว้
ตัวโปรแกรมก็จะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ในรูปแบบของ Checklist ตัวระบบก็จะมีการจับข้อมูลในหน้านั้นๆ และ แนะนำว่าเราควรปรับข้อมูลในส่วนไหน Content ของเราดีแล้วหรือยัง
โดยแสดงผลในส่วน ที่ดีแล้วเป็นสีเขียว และ แสดงผลในส่วนที่ต้องปรับปรุงเป็นสีแดง
วิธีการใช้งาน Yoast SEO
เริ่มต้นการใช้งานให้เราเลือก Focus keyword phrase

ซึ่งจะเป็น Keyword หลักในหน้านั้น เพียงคำเดียวเพราะฉะนั้นเราต้องมีการคัด Keyword ให้ดีก่อนเมื่อใส่ Keyword ลงไปก็จะมี Check List ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
1.ให้เราเริ่มจากการใส่ชื่อ บทความ

การใส่ชื่อบนความนี้จะต้องไม่ยาวจนเกินไปไม่สั้นจนเกินไป และ ที่สำคัญจะต้องมี Keyword อยู่ในชื่อบทความนี้ด้วยครับ
2.ให้เราใส่ Keyword ในส่วนของ introduction ของบทความ

3.การใส่ Keyword ไว้ในหัวข้อของบทความ

สำหรับ Content มือใหม่หลายๆคนมักจะคิดว่าการใส่หัวข้อเป็นเฉพาะการเน้นคำให้มีตัวหนา ดูดึงดูดกว่าตำแหน่งๆ อื่นๆ แต่จริงแล้วในแง่ของการทำ SEO จะหมายถึงการลำดับความสำคัญ Google จะมองว่าเราให้ความสำคัญกับหัวนั้นเป็นพิเศษดังนั้นเราจะต้องมี Keyword ไว้ในหัวข้อนั้นเองครับ
4.ความยาวของเนื้อหาต้องไม่น้อยกว่า 300 คำ

Yoast SEO แนะนำให้เขียนเนื้อหามากกว่า 300 คำเป็นมาตราฐาน แต่ตัวปลั๊กอินจะไม่ได้รองรับภาษาไทยเท่าไรการนับคำ สำหรับข้อนี้ให้เราลองนำเนื้อไปนับคำในโปรแกรมต่างๆหากเกิน 300 คำก็ถือว่าสามารถใช้งานได้ครับ
5.บทความต้องมีภาพประกอบ

Yoast SEO แนะนำให้แต่ละบทความต้องมีภาพประกอบอย่างน้อย 1 รูป และต้องมีการตั้ง ALT หรือชื่อภาพ เพื่อในกรณีที่ภาพมีความเสียหาย หรือ ไม่โหลดขึ้นมาอย่างน้อยผู้อ่านก็จะรู้ได้ว่ารูปนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร ซึ่งทางแอดมินแนะนำให้ใส่ Keyword เข้าไปด้วยนะครับ
6.การใส่ SEO Title

การใส่หัวข้อหรือ Headline ที่ลูกค้าจะได้เห็นอันนี้ก็แนะนำให้ไม่ยาวจนเกินไป และ ใช้คำให้ดึงดูดแนะนำว่า จะต้องมี Keyword ในคำแรกของ Title ก็จะช่วยให้เราติดหน้าแรกได้ง่ายขึ้น
7.การใส่ meta description

ในส่วนนี้ก็จะเป็นคำอธิบาย ที่จะแสดงเวลาที่ลูกค้าเสิร์ชบน Google โดยตัว Yoast จะมีแถบ Guide เรื่องของความยาวให้ ให้เราเขียนให้อยู่ใน Rate สีเขียวก็จะถือว่าอยู่ในคุณภาพที่ดีนั้นเองครับ แต่อย่าลืมต้องมี Keyword อยู่ในคำอธิบายด้วยนะครับ!
1รูป
8.การใช้ external link และ internal links

External link หรือใส่ Link ไปยังนอกเว็บไซต์ในส่วนนี้ก็แนะนำให้ใส่ CTA ในการติดต่อไม่ว่าจะเป็น Line Phone ช่องทาง Social Media ในการติดต่อเพื่อ Drive Traffic เข้าไปในการปิดการขาย ส่วน Internal links ก็จะเป็น Link ภายในเว็บไซต์ สำหรับนักอ่านหลายๆ คนก็จะเคยเห็น บทความที่เชื่อมไปยังหน้าติดต่อ หรือ บทความอื่นๆ การวางโครงสร้างพวกนี้ก็จะช่วยให้เราเพิ่ม SEO SCORE ได้นั้นเอง
ประโยชน์การใช้ Yoast SEO

ช่วยให้เราพัฒนาเนื้อหาเว็บได้ถูกวิธี
ผู้ประกอบการหลายๆท่านๆ ทำ Content ออกมาน่าสนใจ แต่ไม่ติดหน้าแรกซักที หลายท่านมักจะพลาดเพราะไม่รู้กฎในการติดหน้าแรกของ Google ปลั๊กอินอย่าง Yoast SEO ก็จะเข้ามาตัวช่วยบอก CheckList ในการเพิ่มประสิทธิภาพ การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้ถูกใจทั้งคนอ่าน และ Bot ของ Google
ช่วยให้เราวาง Keyword อย่างเหมาะสม
Yoast SEO จะให้เราเลือก Focus keyword phrase ในหน้านั้นๆเพื่อระบุว่าหน้านั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร ควรมี Keyword อยู่ในตำแหน่งไหนบ้าง และ มี Keyword มากน้อยขนาดไหนตามจำนวน Text เพื่อไม่ให้ผิดหลักการณ์ของทาง Google
ช่วยให้เราติดหน้าแรกบน Google ได้ง่ายขึ้น
หากเรามีการทำตาม CheckList อยู่บ่อยๆ ก็จะทำเว็บไซต์ของเรามีโครงสร้างที่ถูกต้อง Google ก็จะเข้ามาให้คะแนนสูงกว่าคู่แข่ง ทำให้เรามีโอกาสในติดหน้าแรกมากกว่า และมีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ตามมานั้นเอง
ส่วนใครที่สนใจให้ Agency ดูแล
MIG เราเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Web marketing ไม่ว่าจะเป็นการทำเว็บไซต์ Sale Page / Company Profile / E-commerce และการทำการตลาดอย่าง Google ADs SEO SEM โดยเฉพาะใครที่ต้องการคำปรึกษา MIG สามารถติดต่อสอบถามได้ที่…